รับสอนอเมริกัน อิงลิช  -  รับสอนภาษาไทยให้กับชาวต่างชาติและลูกครึ่ง   -  เชี่ยวชาญการว่าความให้ชาวต่างชาติ  -  รับสอนเทนนิส
      
สุดยอดเส้นทางลัด ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
           "Englishแบบเข้มข้น แต่ก็ปน เรื่องฮา.....B4 2 long Uจะคล่อง เรื่องภาษา
             ครูอาจารย์ นักเรียน.....ควรแวะเวียน กันเข้ามา
             มา
laugh มาlearn........มาเพลิดเพลิน กับการศึกษา"(โย่ว)(คลิกที่นี่)
<The Funtastic Way to Learn English>  
 อัพเดทสม่ำเสมอ พิเศษสำหรับสมาชิก
    เว็บสอนภาษา ที่ให้มากกว่าการสอนภาษา  .............    
 

   Harry Potter and the Order of the Parrot :: แฮรี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกแก้ว

    This guy goes to a pet shop to buy a parrot. There he sees a parrot with a red string tied to its left leg and a green string tied to its right leg. He asks the owner the significance of the strings.

"Well, this is a highly trained parrot. If you pull the red string he speaks French; if you pull the green string he speaks German," replies the shop keeper.

"And what happens if I pull both the strings?" our curious shopper inquires.

"I fall off my perch you fool!!" screeches the parrot.

 

--------------

 

    ชายคนหนึ่ง ได้ไปที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง เพื่อที่จะซื้อนกแก้วสักตัวหนึ่ง ที่ร้านนั้น เขาก็เห็นนกแก้วตัวหนึ่ง มีเชือกสีแดงผูกไว้ที่ขาซ้ายและเชือกสีเขียวผูกที่ขาขวา เขาจึงถามเจ้าของร้าน ว่าผูกเชือกเอาไว้ทำไม

เจ้าของร้าน : "อ๋อ! คือว่า เจ้านกตัวนี้ มันได้รับการฝึกมาอย่างดี ถ้าคุณกระตุกเชือกสีแดง มันจะพูดภาษาฝรั่งเศส แต่ถ้าคุณกระตุกเชือกสีเขียว มันก็จะพูดภาษาเยอรมัน"

ชายคนนั้น : "แล้วถ้าผม กระตุกทั้ง 2 เส้นละครับ?"

เจ้านกแก้ว : "ฉันก็ตีลังกาหัวทิ่ม นะสิโว้ย จ๊าดง่าว!!"


-------------

             เพิ่มพูนปัญญา  หลังฮาเฮ

 
 ฝึกออกเสียง    

the significance : สิกนิ-ฝิเข่นซฺ (นัยสำคัญ, ความสำคัญ, ความหมาย) n.

string : ซตริง-(เชือก) n.

reply : หริพล่าย- (ตอบ) v.

curious : คิ้ว-เหรียส (ที่สนใจใคร่รู้, ที่ขี้สงสัย, ที่อยากรู้อยากเห็น) adj.

inquire : อิ่นคว่าย-เอ่อะ (ถาม) v.

perch : เพิ่ช (คอน(สำหรับนกเกาะ)) n.

fool : ฟู่ล (ไอ้ทึ่ม, ไอ้โง่, ไอ้จ๊าดง่าว) n.

screech : ซกรี้ช- (ร้องแว้ด, แผดเสียงแหลมดัง, กรี๊ด!ขึ้นมา(จำคำนี้ก็ได้ครับ เพราะออกเสียงคล้ายๆกัน)) v.


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - --

             การแนะนำการออกเสียง โดยการเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือนั้น ไม่อาจทำได้สมบูรณ์ 100% ขอให้ท่านฟังจากดิคชันนารีออนไลน์(ฟรี) ซึ่งมีอยู่มากมายประกอบไปด้วย. ใช้ google หาดูนะครับ ควรฟังทั้งที่เป็นคำเดี่ยวๆและที่อยู่ในรูปประโยค

            และที่สำคัญครับ การเรียนภาษาในยุคนี้ ผู้สอนไม่ควรมานั่งถามศัพท์นักเรียนทีละคำ-สองคำอีกแล้ว แบบว่า"ไหนบอกซิ..คำนี้แปลว่าอะไร?-คำนั้นแปลว่าอะไร?" การมานั่งท่องศัพท์ทีละคำ-สองคำเหมือนที่เคยเรียนกันมาในอดีต อีกสิบชาติ ก็ไม่พอใช้หรอกครับ เปรียบดังฝนที่ตกลงมาทีละเม็ด-สองเม็ด เอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้ แต่ควรให้คำศัพท์รวมทั้งเรื่องอื่นๆ สาดเทลงมากระทบร่างเราเหมือนดังห่าฝน..นั่นแหละครับ คือวิธีเรียนภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง(ซึ่งเราได้แนะนำกลวิธีไว้ให้ท่านแล้วในหนังสือ(และในเว็บนี้)..ที่สำคัญ..อย่าลืมนะครับว่า ประเทศไทย ได้เข้ารวมกลุ่มเป็นAECแล้ว ถ้าไม่เร่งพัฒนาภาษากันอย่างจริงจังเสียแต่วันนี้ คนไทย จะเจอปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน)

 เกร็ดความรู้      

(ประโยคสุดท้ายที่ว่า"I fall off my perch you fool!!" ถ้าแปลตรงๆ ก็คือ "ฉันก็ตกจากคอนนะสิเว้ย..ไอ้จ๊าดง่าว!!")

เรามาดูคำว่า the significance (สิกนิ-ฝิเข่นซฺ)กันนะครับ ใน 2 หน้าตาด้วยกัน

ในหน้าตาแรก จะหมายถึง"นัยสำคัญ, ความสำคัญ"( n.)

The new drug has great significance for the treament of the disease.
ยาตัวใหม่ มีความสำคัญมาก สำหรับใช้ในการรักษาโรคร้ายนั้น

You should be fully aware of the significance of television in shaping your ideas.
พวกคุณนั้น ควรที่จะตระหนักถึงความสำคัญของโทรทัศน์ ซึ่งจะส่งผลถึงรูปแบบหรือแนวความคิดของพวกคุณ

ในหน้าตาที่สอง จะหมายถึง"ความหมาย"(ของบางสิ่งบางอย่าง)

He couldn't grasp the full significance of what she had said.
เขานั้นไม่สามารถที่จะเข้าใจความหมายทั้งหมดที่เธอพูดได้

(
คำว่า"grasp"นั้น ปกติจะหมายถึง"คว้าจับ" แต่ในประโยคนี้ จะหมายถึง"จับความ(หมาย)"หรือ"เข้าใจ"ครับ)

Do those symbols have any particular significance?
สัญลักษณ์เหล่านั้นมีความหมายเฉพาะอะไรหรือไม่?

ทีนี้ก็มาถึง ประโยคในเรื่อง

He asks the owner the significance of the strings.

ท่านผู้อ่านคิดว่า มันน่าจะมีความหมายว่าอย่างไรครับ?

เมื่อพุดถึงคำว่า"grasp"แล้ว ผมว่า เรามาศึกษาคำนี้กันสักนิด ก็น่าจะดี เพราะคำนี้มีฤทธิ์เดชมาก และเราจะพบบ่อยๆครับ

คำว่า"grasp"นี้ อเมริกันชน จะออกเสียงตัว"s"เพียงนิดเดียวครับ คือจะออกเสียงว่า"กร้าซพฺ"ครับ ถ้าพวกเราบางคน อยากจะเอาให้ชัวร์ๆ เพื่อความมั่นใจ คำตอบสุดท้ายสำหรับพวกเราก็น่าจะเป็น การฟังจาก"Talking Dic"ครับ(ซึ่งก็คือ การฟังจากปากเจ้าของภาษานั่นเอง)..แล้วคุณก็ออกเสียงไปตามนั้นแหละครับ..เรื่องการฟังหรือเรื่องของหูนั้น แต่ละคนก็อาจจะฟังผิดเพี้ยนกันไปบ้าง ก็ไม่เป็นไรครับ ให้คิดเสียว่า"หูใครหูมัน"ครับ ให้ฟังและพูดบ่อยๆ ประเดี๋ยวก็เก่งไปเอง(ปริมาณของEar wax(ขี้หู)จะมีส่วนเกี่ยวข้องบ้างนิดหน่อย เหมือนอีตอนที่เราเรียน"Listening"นั่นแหละครับ ..ฮ่าๆๆ)

  อ้อ! เกือบลืม เวลาฟังพวก"Talking Dic" ควรใช้"หูฟัง"(Earphone)ช่วยนะครับ จะได้ยินชัดเจนกว่า

(Talking Dicชนิดที่เป็นแผ่นซี.ดี. ซึ่งเราสามาถใช้กับเครื่องคอมพ์ที่บ้าน ราคา น่าจะอยู่ที่แผ่นละร้อยกว่าบาทครับ..อันนี้ เป็นโปรแกรมสามัญประจำบ้าน ทุกคนควรจะต้องมีครับ)

ลองดูตัวอย่างประโยค

คำว่า"grasp"(กร้าซพฺ) ในหน้าตาแรกนั้น จะมีความหมายว่า"จับ, คว้า, ฉวย, หยิบ" (ซึ่งจะมีความหมายเหมือนกับคำว่า"grab"(แกร้บ)(คำนี้ Dic.ภาษาอังกฤษ จะบอกว่า หมายถึง"to take or grasp suddenly")แถมหน้าตาของสองคำนี้ ก็ยังกะ"สนฉัตร-สรรค์ชัย รติวัฒน์ นักเทนนิสฝาแฝดชาวไทย ยังไงยังงั้นเลยละครับท่าน..อืม!! ภาษาอังกฤษ..ช่างสนุกเสียนี่กระไร..พระเจ้าช่วย กล้วยเชื่อม!!!" )

She grasped my hand and shook it warmly.
เธอจับมือต้อนรับผมด้วยมิตรไมตรี(น่าจะหมายถึงการ"เชคแฮนด์"ต้อนรับอย่างอบอุ่น)

Liza grasped him by the wrist.
ลิซ่าได้คว้าข้อมือเขาเอาไว้

ในอีกหน้าตาหนึ่ง จะมีความหมายว่า"จับความ,จับความหมาย"

I instanly grasped that Jack was talking about his new car.
ผมจับความได้ทันทีว่า แจ๊คนั้นกำลังพูดถึงรถคันใหม่ของเขา

ที่ยกตัวอย่างมานั้น จะเป็นคำกริยา เอาที่เป็นคำนามบ้างนะครับ

She grabbed him, but he slipped from her grasp.
เธอนั้นจับเขาเอาไว้ แต่เขาก็ดิ้นหลุดไปได้
(ประโยคนี้ น่าจดจำเอาไว้นะครับ เพราะมีทั้ง 2 คำ อยู่ในประโยคเดียวกัน)

เมื่อพูดถึง"grab"แล้ว มีอยู่สำนวนหนึ่ง ที่พวกเราควรจะต้องศึกษาหรือเรียนรู้เอาไว้ เพราะเปิดวิทยุภาคภาษาอังกฤษทีไร ก็จะได้ยิน ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า(อย่า"ซ้ำเหล้า"นะครับ ประเดี๋ยวจะ"มาววว.."..แหะๆๆ คุยกันเล่นสนุกๆนะครับ ผมไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ครับ..มันไม่อร่อย อีกทั้งยังเป็นการสนองนโยบาย"งัดเหล้าเข้าพรรษา"อีกด้วยนะครับ )

ครับ สำนวนที่ว่าก็คือ "up for grabs" มีความหมายว่า"ready for anyone to take or win"หรือ "available for anyone who is interested"ครับ แปลเป็นไทย ก็คงประมาณว่า"พร้อมที่จะให้ใครก็ได้ มาคว้าเอาไป" อะไรประมาณนั้นแหละครับ

There are $50,000 worth of prizes up for grabs in this competition!
มีรางวัลมากมาย มูลค่าสูงถึง 50,000 เหรียญ ที่พร้อมจะมอบให้ ในการแข่งขันครั้งนี้ !

หรือ

We've decided to change our advertising company, so there's a big contract up for grabs now.
เราได้ตัดสินใจเปลี่ยนบริษัทโฆษณา ดังนั้น รายใหม่ อาจจะเป็นใครก็ได้ในตอนนี้

(ขอเชิญบริษัทที่สนใซึ่งอาจจะเป็นใครก็ได้ เข้ามารับงานนี้ไป แทนที่บริษัทเดิม)(ซึ่งแน่นอนว่า การที่จะเข้ามาเป็นคู่สัญญารับงานไปนั้น ก็ต้องผ่านขั้นตอน กระบวนการ เช่น การติดต่อเข้ามา, การเข้ามาคุยในเรื่องรายละเอียดของงาน หรือ ค่าจ้าง เมื่อตกลงกันแล้ว ก็เซ็นสัญญา(a big contract ) อะไรทำนองนั้นแหละครับ)

คงพอเข้าใจนะครับ

 

(รายการวิทยุภาคภาษาอังกฤษ ที่ผมฟังประจำก็คือ FM.107, 102.5, 105, 105.5 และ 88 ครับ(ส่วนใหญ่ ผมจะเปิดฟัง ขณะกำลังขับรถอยู่บนถนนครับ)



 

Fudfidforfun
Learn & Laugh Simultaneously
 เสริมสร้างปัญญาและฮาเฮ


 


Copyright (C)
2003 By www.fudfidforfun.com All rights reserved.