รับสอนอเมริกัน อิงลิช  -  รับสอนภาษาไทยให้กับชาวต่างชาติและลูกครึ่ง   -  เชี่ยวชาญการว่าความให้ชาวต่างชาติ  -  รับสอนเทนนิส
สุดยอดเส้นทางลัด ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
          "Englishแบบเข้มข้น แต่ก็ปน เรื่องฮา.....B4 2 long Uจะคล่อง เรื่องภาษา
            ครูอาจารย์ นักเรียน      ควรแวะเวียน กันเข้ามา
            มา
laugh มา learn     มาเพลิดเพลิน กับการศึกษา"(โย่ว) (คลิกที่นี่) 
<The Funtastic Way to Learn English>
  อัพเดทสม่ำเสมอ พิเศษสำหรับสมาชิก
    เว็บสอนภาษา ที่ให้มากกว่าการสอนภาษา  .............    
 

  I don't even know you :: เรื่องมันยุ่ง อีนุงตุงนัง

    One Day, at a bus stop there was a girl who was wearing a skintight miniskirt. When the bus arrived and it was her turn to get on, she realized that her skirt was so tight she couldn't get her foot high enough to reach to step.

Thinking it would give her enough slack to raise her leg, she reaches back and unzips her skirt a little. She still could not reach the step Embarrassed, she reaches back once again to unzip it a little more. Still, she couldn't reach the step.

So, with her skirt zipper halfway down, she reaches back and unzips her skirt all the way. Thinking that she could get on the step now, she lifts up her leg only to realize that she still couldn't reach the step.

So, seeing how embarrased the girl was, the man standing behind her put his hands around her waist and lifted her up on to the first step of the bus. The girl turns around furiously and says, “How dare you touch my body that way, I don't even know you!”

Shocked, the man says, “Well, ma'am, after you reached around and unzipped my fly three times, I kinda figured that we were friends.”


--------------

        วันหนึ่ง ที่ป้ายรถเมล์ มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนรอรถเมล์ เธอสวมกระโปรงสั้นรัดรูป

เมื่อรถเมล์เข้ามาจอดและในจังหวะที่เธอจะต้องก้าวขึ้นไป เธอก็รู้สึกว่ากระโปรงของ

เธอนั้นมันฟิตเปรี๊ยะจนเธอไม่สามารถที่จะยกเท้าให้สูงพอที่จะเหยียบบันไดรถเมล์ได้

เธอก็คิดวิธีขึ้นมาได้ โดยการเอื้อมมือไปด้านหลังแล้วรูดซิปกระโปรงลงนิดหนึ่ง แต่เธอก็ยังยกขาไม่ขึ้นอยู่ดี ด้วยความเขินอาย เธอจึงเอื้อมมือไปข้างหลังอีกครั้งหนึ่ง แล้วรูดซิปให้เปิดมากขึ้นอีกนิดหนึ่ง แต่ปรากฏว่าเธอก็ยังไม่สามารถยกขาขึ้นเหยียบ
บันไดรถเมล์ได้

เมื่อเธอเห็นว่า รูดซิปลงมาครึ่งหนึ่งแล้วก็ยังขึ้นไม่ได้ เธอจึงเอื้อมมือไปข้างหลังอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เธอรูดยาวลงไปจนสุดและคิดว่าคราวนี้มันน่าจะโอ.เค.พอลองยกขาขึ้นปรากฏว่ามันก็ยังขึ้นไม่ได้อยู่ดี

ชายหนุ่มซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเธอ เห็นอาการทุลักทุเลของเธอแล้ว จึงใช้สองมือรวบจับที่เอวของเธอแล้วยกเธอขึ้นไปบนรถเมล์

หญิงสาวหันกลับมาด้วยความไม่สบอารมณ์ แล้วโวยใส่ :"คุณกล้าดียังไงถึงมาอุ้มฉัน ฉันไม่เคยรู้จักคุณสักหน่อย !"

ชายหนุ่ม:" เอ้อ..คุณครับ ผมเห็นคุณเอื้อมมือมารูดซิปกางเกงผมถึงสามครั้ง ผมก็คิดว่า เราคงต้องเป็นเพื่อนกันแน่ๆเลย" (5555)

-------------

 เพิ่มพูนปัญญา  หลังฮาเฮ


ฝึกออกเสียง

skintight miniskirt.:ซกิ๊น-ไถ่ท มิ้-หนิซเกิ้ท (กระโปรงสั้นรัดรูปที่ฟิตเปรี๊ยะ)

unzip: อันซิ่พ-(รูดซิป) vt.,vi.

zipper :ซิพ-เป่อ (ซิป) n.

slack:ซแล่ค- ((ความ)หลวม,หย่อน,ที่ไม่ตึง) n.,adj.,v.

tight:ไท้ท (ที่คับ,ที่แน่น) adj.

dare :แด (กล้า,ถือดี) vt.,n.

to get on:ทู เก้ท ออน (ขึ้นรถ,ขึ้นเครื่องบิน ฯลฯ)

furiously :ฟิ้ว-เหรียสหลี่ (ด้วยความโมโห,ด้วยความโกรธ) adv.

once again:วั้นซ อเกน (อีกครั้งหนึ่ง)

fly :ฟลาย (ซิป) n.

- - - - - - - - - - - - - - - - -

     การแนะนำการออกเสียง โดยการเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือนั้น ไม่อาจทำได้สมบูรณ์ 100% ขอให้ท่านฟังจากดิคชันนารีออนไลน์(ฟรี) ซึ่งมีอยู่มากมายประกอบไปด้วย. ใช้ google หาดูนะครับ ควรฟังทั้งที่เป็นคำเดี่ยวๆและที่อยู่ในรูปประโยค
      และที่สำคัญครับ การเรียนภาษาในยุคนี้ ผู้สอนไม่ควรมานั่งถามศัพท์นักเรียน
ทีละคำ-สองคำอีกแล้ว แบบว่า"ไหนบอกซิ..คำนี้แปลว่าอะไร?-คำนั้นแปลว่าอะไร?" การมานั่งท่องศัพท์ทีละคำ-สองคำเหมือนที่เคยเรียนกันมาในอดีต อีกสิบชาติ ก็ไม่พอใช้หรอกครับ เปรียบดังฝนที่ตกลงมาทีละเม็ด-สองเม็ด เอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้ แต่ควรให้คำศัพท์รวมทั้งเรื่องอื่นๆ สาดเทลงมากระทบร่างเราเหมือนดังห่าฝน..นั่นแหละครับ คือวิธีเรียนภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง(ซึ่งเราได้แนะนำกลวิธีไว้ให้ท่านแล้วในหนังสือ(และในเว็บนี้)..ที่สำคัญ..
อย่าลืมนะครับว่า ประเทศไทย ได้เข้ารวมกลุ่มเป็นAECแล้ว ถ้าไม่เร่งพัฒนาภาษากันอย่างจริงจังเสียแต่วันนี้ คนไทย ก็จะเสียประโยชน์ในหลายๆด้าน)

 

 

 

 



เกร็ดความรู้

Thinking it would give her enough slack to raise her leg.
คิดว่ามันน่าจะช่วยให้หลวมลงหน่อย จนพอที่เธอนั้นจะยกขาขึ้นไปได้

to be embarrased:เอ็มแบ๊-หรัส (ทุลักทุเล,ขวยเขิน,หน้าแตก)

How dare you =กล้าดียังไง

I kinda figured that we were friends.”
" ผมก็คิดว่า เราคงต้องเป็นเพื่อนกันแน่ๆเลย"

turn around = หันกลับมา (ออกเสียงว่า"เทิ้น อหร่าวด")(มีเสียง"อะ"แค่นิดเดียว)

คำว่า turn (เทิน) ก็เป็นอีกคำที่มีฤทธิ์เดชสุดๆ และมีมากมายหลายหน้าตาให้เราได้ศึกษากันอย่างสนุกสนาน อธิบายกันได้เพลิดเพลิน7วัน7คืน

หน้าตาแรก จะแปลว่า"หมุน"(verb.)
The wheels of the bus began to turn.
ล้อของรถบัสเริ่มหมุน

She can't get the screw to turn.
เธอไม่สามารถขันตะปูควงอันนั้นได้ (อาจจะ"ขันเข้า"หรือ"ขันออก"ก็ได้)

คำว่า"turnaround"(เขียนติดกัน)นั้น ยังเป็นสำนวน มีความหมายว่า"การพลิกฟื้น","การฟื้น"ใช้บรรยายเรื่องราวที่เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี
(เป็นคำนาม)

I think the next four years is going to be a turnaround in our economy.
ผมคิดว่าสี่ปีข้างหน้า จะเป็นช่วงเวลาพลิกฟื้นทางเศรษฐกิจของเรา

to turn things around หมายถึง"พลิกสถานการณ์"(เป็นคำกริยา)
ตัวอย่าง เช่น สมาน ส.จาตุรงค์มกจ๊ก นักมวยไทยของเรา ขึ้นชกเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์จากUmberto Gonzalez (อำเบอร์โทร ก้อนสเลด) แชมป์โลกชาวเม็กซิกัน ปรากฏว่า สมาน ของเรา โดนแชมป์โลกไล่ถลุงจนนับหมัดแทบไม่ทัน ลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้นเวที กรรมการเกือบจะจับให้แพ้อยู่แล้ว แต่สมานนั้น เป็นลูกผู้ชายตัวจริง เขาดื่มM-100ผสมกับยาดองเหล้าแสงสว่างตราคางคก กัดฟันลุกขึ้นมา เมื่อแชมป์เดินปรี่เข้ามา สมานก็หลับหูหลับตาสวนด้วยหมัดขวาตรง โดนเต็มหน้า จนแชมป์โลกหัวแทบหลุด โซเซไปมา สมานจึงเข้าไปรัวหมัดเผด็จศึก
จากตัวอย่างนี้เราพูดได้ว่า"His straight right hand eventually turned things around."("และแล้วหมัดขวาตรงของเขา ได้ทำให้สถานการณ์นั้นพลิกผัน")

(eventually : อิเว้น-ฉ่วลหลี่ (ในที่สุด. (หลังจากมีปัญหาหรือเสียเวลา) adv.)



 

 

.
Fudfidforfun
Learn & Laugh Simultaneously
 เสริมสร้างปัญญา ฮากระจาย
 


Copyright (C)
2003 By www.fudfidforfun.com All rights reserved.