เจ้าของนามปากกา จตุพล ฟุดฟิดฟอร์ฟัน สำเร็จการศึกษา ณ สถาบันอุดมศึกษามีชื่อแห่งหนึ่งในประเทศไทย แล้วไปศึกษาทางด้านภาษาอังกฤษที่ United States International University(USIU) เมือง San Diego มลรัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา(คนไทยที่ไปเรียนที่นั่น เท่าที่จำได้ก็มี ศ.ดร.บุญทัน ดอกไธสง อดีตอาจารย์, ผู้อำนวยการโครงการปริญญาเอกคณะรัฐประศาสนศาสตร์ NIDA, ฯลฯ., ผศ.ดร.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการบดี ม.รามคำแหง ท่านนี้ เป็นบุตรของท่านส.ส.ประมวล กุลมาตย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, รองประธานรัฐสภา และอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย(ในยุคของท่านพลเอกเปรม) ซึ่งท่านผู้นี้(คลิก) เป็นผู้มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ทางด้านการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของไทย คือเป็นผู้ผลักดันให้ก่อกำเนิดมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ซึ่งในตอนนั้น มีอุปสรรคมากมาย มีการคัดค้าน ต่อต้านจากหลายๆฝ่าย โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้น ดูแล้ว Slim & Non แต่ท่านก็ได้พยายามทำจนสำเร็จ) ไว้มีโอกาส ผมจะมาเขียนเล่าให้ฟัง เอาแบบละเอียด(แบบที่ท่านนั้น ไม่น่าจะเคยได้ทราบมาก่อน) ซึ่งต้องอ้างอิงไปถึงท่านคึกฤทธิ ท่านจอมพลถนอม และอีกหลายๆท่าน และที่เป็นไคลแม็กซ์สำคัญของเรื่อง ก็คือ"ผ้าขาวม้า"(เอ๊ะ มายังไง? 555) ซึ่งมีรายละเอียดและแง่มุมที่น่าสนใจมากมาย เว็บเรานั้น เป็นเว็บเพื่อการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกัน จึงขอนำเรื่องราวของเหล่าผู้มีคุณูปการ และผู้ที่เกี่ยวข้องด้านหนึ่งด้านใดเหล่านี้ มาอ้างอิงเป็นเกร็ดเล็กๆเอาไว้)

        ร่ำเรียนศึกษาอยู่ที่นั่น จนทางมหา'ลัยแจ้งให้ทราบว่า ไม่มีอะไรจะสอนให้อีกแล้ว คุณจบแล้ว สามารถลงจากวัดเส้าหลิน โดยไม่ต้องฝ่าด่านมนุษย์ทองคำใดๆ และขอให้ใช้วิทยายุทธที่ร่ำเรียนมา ผดุงคุณธรรมกอบกู้บู๊ลิ้ม

นั่นคือที่มาของ จตุพล ฟุดฟิดฟอร์ฟัน The poodle bearer, aka 'Knight Millionaire'
(จอมยุทธผู้ร่ำรวยเคล็ดวิชา ฮากระจาย/อัศวินสายฮา ภาษาสนุก ), etc.

  เมืองไทยเรานั้น เป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆของโลก รายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยว นับเป็นรายได้หลักของชาติ คนไทย มีหน้าที่ต้องคอยต้อนรับ สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่หลั่งไหลเข้ามาในแต่ละปีจำนวนมหาศาล และเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี ภาษาจึงเป็นเรื่องจำเป็น แต่ปรากฎว่า ภาษาอังกฤษของคนไทยส่วนใหญ่นั้น ยังไม่ดีพอที่จะใช้สื่อสารกับชาวต่างชาติได้ ยังไม่ดีพอสำหรับการสนทนากันในเรื่องง่ายๆให้เข้าใจกันได้ หรือพูดให้ชัดๆตรงประเด็นไปเลยก็คือว่า ยังไม่ดีพอสำหรับการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ที่มีหน้าที่ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งทำให้ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยต้องเสียภาพลักษณ์และเสียประโยชน์เป็นอย่างมาก
(มีเสียงสะท้อนให้เราได้ยินได้ฟังมากมาย ผ่านทางสื่อต่างๆ ทั้งจากฝ่ายผู้มาเยือนและฝ่ายของเราเอง) ในยุคนี้ เราจะอาศัยความเป็นสยามเมืองยิ้ม เอาแต่ยิ้มอย่างเดียว ดูเหมือนว่า มันไม่น่าจะพอแล้วละครับ(with all due respect(ด้วยความเคารพ))

   ยิ่งสภาพอากาศโลก เริ่มผิดเพี้ยนเนื่องจากปัญหาClimate change นับย้อนไปไม่ต้องไกล
เอาแค่จากปลายปี 2022 ส่งผลให้ฤดูหนาวในหลายๆประเทศนั้น เลวร้ายมากถึงมากที่สุด ผู้คน ก็ยิ่งพากันแห่หนีนรกเยือกแข็ง มาสู่สรวงสวรรค์ ซึ่งก็คือ แสงแดดที่แผดจ้าน่าอภิรมย์ อีกทั้งสายลม ธรรมชาติ ทะเล ภูเขา อาหารอร่อย ความอบอุ่นและมิตรไมตรีที่เมืองไทย(หรือเราอาจจะพูดได้ว่า พวกเขานั้น "หนีเย็น มาพึ่งร้อน" ก็ไม่น่าจะผิดนะ)

   สรุป ก็เป็นดังที่ทราบกันดีว่า คนไทยเรานั้น มีปัญหาภาษาอังกฤษ อยู่ในขั้นที่เรียกได้ว่า"เข้าขั้นวิกฤติ" เมื่อมีการจัดอันดับความสามารถในการใช้ภาษา  ประเทศไทยของเรา ก็จะอยู่ในอันดับท้ายๆของโลก นั่นคือหนึ่งในปัญหาหลักๆที่ทำให้ชาติไม่พัฒนา(ขอเน้นว่าเป็นแค่"หนึ่งในปัญหาหลักๆ"นะครับ(งดดราม่า) และก็เป็นปัญหาที่แก้ไขได้น่าจะค่อนข้างยาก ปัญหาเกิดจากหลายๆสาเหตุ(ลองคลิกดู 1 ตัวอย่าง-ยังมีอีกหลายๆเรื่องครับ) ซึ่งเราเห็นปัญหาได้อย่างชัดเจน แต่ไม่ยอมแก้ไขกัน("แก้ไขได้ยาก" ไม่ได้แปลว่าแก้ไขไม่ได้นะครับ) วันนี้ เรามาพูดคุยกัน ภายใต้ความจริงข้อหนึ่ง ที่ต้องยอมรับกันก่อนนะครับว่า ภาษานั้น ก็คือ"เครื่องมือที่มนุษย์เรา ใช้ในการสื่อสาร"(ให้เข้าใจกัน-ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนพกพาใส่สมอง เข้าไปในห้องสอบ(ของประเทศใดประเทศหนึ่ง) เพื่อสอบให้ผ่านหรือแค่ให้ผ่านการสอบ แล้วก็เป็นอันจบๆ เลิกลากันไป..แล้วนะจ๊ะ พ่อ แม่ พี่ น้อง..บรื๊อววว!..ตูไม่เอาอีกแล้วววว!!!)

     เราพบว่า คนไทย 70 ล้านคน ที่สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้มีเพียง 10 %(7 ล้านคน)เท่านั้น)
(ลองใช้ google ค้นดูนะครับ)

  รัฐบาลไทย(หลายๆชุด)ได้ออกมายอมรับแล้วว่า การเรียน-การสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของไทยเรานั้น ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง(ขีดเส้นใต้ 5 เส้น)

  เรา..เหล่าจอมยุทธน้องหมาผู้น่ารัก ซึ่งได้อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริการ่วมสิบปี จึงได้พยายามศึกษาและฝึกฝนการใช้ภาษาในหลากหลายรูปแบบ ไปคลุกคลีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกเขา ซึมซับและเรียนรู้ภาษาในหลากหลายแง่มุม และได้สรุปคิดค้นแนวทางการเรียนการสอน ที่เป็นแบบฉบับเฉพาะของตนเองขึ้นมา

    ซึ่งพวกเรา "กลุ่มอัศวินน้องหมา-ฮากระจาย" ได้ทดลองดูแล้ว พบว่ามีความแตกต่าง ไม่เหมือนของคนอื่นๆและมีประสิทธิภาพ เมื่อนำไปสอน ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง
(คนไทยใจร้อน..ถ้าอยากจะอ่านเนื้อหาเลย..คลิกที่นี่ครับ)

 ( เมื่อท่านอ่านเนื้อหา(เรื่อง)ของเราไปเรื่อยๆ ท่านก็จะพบกับลิงค์"สุดยอดเคล็ดวิชาเก่งอังกฤษ(คลิกที่นี่)" ที่เราจัดเตรียมไว้ให้ท่าน-นั่นแหละครับ คือหัวใจ หรือส่วนสำคัญที่สุด ที่เราได้จัดทำไว้ให้ท่าน)

"ท่านเยี่ยมชมเว็บเราได้ ด้วยความสบายใจ"

ทุกธุรกรรมปลอดภัย มั่นใจด้วย SSL

Pashrapon Fudfidforfun

   เรามี Facebook ด้วยนะคะ ชื่อ Fudfidforfun นี่แหละค่ะ ท่านที่ใช้เฟซบุ๊ค
ก็ขอเชิญเข้าไปกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามกันได้เลยค่า
(คลิกที่นี่ เพื่อเข้าเฟซบุ๊กฟุดฟิดฟอร์ฟัน)
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - - -
  หวังเป็นอย่างยิ่งว่า website นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย
หากมีข้อผิดพลาดประการใด
ผู้จัดทำขอน้อมรับคำติชมทุกประการ โดยเขียนมาคุยได้ที่
 Line ID : cyberknight
   จตุพล ฟุดฟิดฟอร์ฟัน

หน้าตา ตัวตนของเรา และแนวทางการพัฒนาเว็บฟุดฟิดฟอร์ฟัน

ต้องการสนับสนุนเรา/ร่วมกันทำบุญ ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต(คลิก)