รับสอนอเมริกัน อิงลิช  -  รับสอนภาษาไทยให้กับชาวต่างชาติและลูกครึ่ง   -  เชี่ยวชาญการว่าความให้ชาวต่างชาติ  -  รับสอนเทนนิส
สุดยอดเส้นทางลัด ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
          "Englishแบบเข้มข้น แต่ก็ปน เรื่องฮา.....B4 2 long Uจะคล่อง เรื่องภาษา
            ครูอาจารย์ นักเรียน      ควรแวะเวียน กันเข้ามา
            มา
laugh มา learn     มาเพลิดเพลิน กับการศึกษา"(โย่ว) (คลิกที่นี่) 
<The Funtastic Way to Learn English>
  อัพเดทสม่ำเสมอ พิเศษสำหรับสมาชิก
    เว็บสอนภาษา ที่ให้มากกว่าการสอนภาษา  .............    
 

 The Invisible Hand :: มือที่มองไม่เห็น

  

St. Peter is very busy in Heaven, so he leaves a sign by the Pearly Gates: "For Service Ring Bell." Away he goes; he barely gets started when BING! the bell rings. He rushes back to the gates, but no one's there.

St. Peter goes back to work when suddenly BING! the bell rings again. He rushes back to the gates, but no one's there. A little annoyed, St. Peter goes back to work.

Suddenly, BING! the bell rings again. St. Peter goes back; again, no one's there. "Okay, that's it," St. Peter says. "I'm going to hide and watch to see what's going on." So St. Peter hides, and a moment later, a little old man walks up and rings the bell.

St. Peter jumps out and yells, "Aha! Are you the guy who keeps ringing the bell?"

"Yes, that's me," the little old man says.

"Well, why do you keep ringing the bell and going away?" St. Peter asks.

"They keep resuscitating me," he replies.


---------------

เซนต์ ปีเตอร์ ผู้เฝ้าประตูสวรรค์ มีงานที่ต้องทำมากมายหลายเรื่องบนสรวงสวรรค์ แล้ววันหนึ่ง เมื่อมีเหตุให้ต้องไปทำธุระที่อื่น เขาจึงวางป้ายอันหนึ่งไว้ที่ประตูสวรรค์ เขียนว่า"ต้องการใช้บริการ โปรดกดกระดิ่ง" เขาเพิ่งจะเดินไปได้ไม่ไกล"กริ๊ง!!!"เสียงกริ่งก็ดังกังวานขึ้น เซนต์ ปีเตอร์ก็รีบวิ่งกลับมาที่ประตู แต่ปรากฏว่า ไม่มีผู้ใด

เซนต์ ปีเตอร์จึงรีบบึ่งเพื่อจะไปทำธุระ แต่แล้วเสียงกริ่ง ก็ดังวานขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เขารีบกลับไปที่ประตู แล้วก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ไม่มีผู้ใดอยู่ที่นั่น

เซนต์ ปีเตอร์ : "โอ.เค. เอาสิวะ""เราจะแอบซุ่มดูซิว่า ใคร? บังอาจมาเล่นตลกกับเราแบบนี้"

แล้วเซนต์ ปีเตอร์ ก็แอบซุ่มอยู่แถวๆนั้น ไม่นาน ชายชราร่างเล็กคนหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นและเดินไปกดกระดิ่ง

เซนต์ ปีเตอร์ ก็กระโดดบันจี้จั๊มพ์ออกมาแล้วร้องถาม : "อ่าฮ้า!เจอตัวแล้ว!! คุณคือคนที่มากดกริ่งเล่นใช่มั้ย?"

ชายชรา : "ใช่แล้วคร้าบ"

เซนต์ ปีเตอร์ : "อืม, ไหนบอกมาซิ ว่าทำไมคุณถึงได้มากด แล้วก็วิ่งหนีไป...กด แล้วก็วิ่งหนีไป.แบบนี้?

ชายชรา : "ก็พวกเขา คอยปั๊มหัวใจผมนะสิ ตายแล้วก็ฟื้น ฟื้นแล้วก็ตายอยู่อย่างนี้..โอั! พระเจ้าช่วย..กล้วยน้ำว้า!!."

(5555. 6666).

-------------

 เพิ่มพูนปัญญา  หลังฮาเฮ


ฝึกออกเสียง 

resuscitate : รีซั้สฺ-สิเถทฺ(กระตุ้นให้ฟื้น(คืนชีพ))v

barely : แบ๊-หลี่ (แทบจะไม่) adv.

rush back : รัชฺ แบคฺ (รีบกลับมา)

annoy : แอ่นน่อยฺ- (ไม่ค่อยพอใจ, รำคาญ, ชักฉุน) v.

to ring : ริ่ง (กดกริ่ง, กดออด) v.

to yell : เยลฺ (ตะโกน, ร้องบอก) v.

to reply : หริพล่ายฺ-(ตอบ) v.

-------------------------

  การแนะนำการออกเสียง โดยการเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือนั้น ไม่อาจทำได้สมบูรณ์ 100% ขอให้ท่านฟังจากดิคชันนารีออนไลน์(ฟรี) ซึ่งมีอยู่มากมายประกอบไปด้วย. ท่านใช้ google หาดูนะครับ ควรฟังทั้งที่เป็นคำเดี่ยวๆและที่อยู่ในรูปประโยค
      และที่สำคัญครับ การเรียนภาษาในยุคนี้ ผู้สอนไม่ควรมานั่งถามศัพท์นักเรียนทีละคำ-สองคำอีกแล้ว แบบว่า"ไหนบอกซิ..คำนี้แปลว่าอะไร?-คำนั้นแปลว่าอะไร?" การมานั่งท่องศัพท์ทีละคำ-สองคำเหมือนที่เคยเรียนกันมาในอดีต อีกสิบชาติ ก็ไม่พอใช้หรอกครับ(with all due respect(ด้วยความเคารพ)) 
เปรียบดังฝนที่ตกลงมาทีละเม็ด-สองเม็ด เอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้ แต่ควรให้คำศัพท์รวมทั้งเรื่องอื่นๆ สาดเทลงมากระทบร่างเราเหมือนดังห่าฝน..นั่นแหละครับ คือวิธีเรียนภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง
ซึ่งเราได้แนะนำกลวิธีไว้ให้ท่านแล้วในหนังสือและในเว็บฟุดฟิดฟอร์ฟันนี้
    และที่สำคัญ..อย่าลืมนะครับว่า ประเทศไทย ได้เข้ารวมกลุ่มเป็นAECแล้ว ถ้าไม่เร่งพัฒนาภาษากันอย่างจริงจังเสียแต่วันนี้ คนไทย ก็จะพลาดโอกาสและเสียประโยชน์ในหลายๆด้าน


เกร็ดความรู้

barely : แบ๊-หลี่ คำคุณศัพท์(Adverb)คำนี้มีหลายหน้าตาครับ น่าสนใจมากครับ เพราะเราจะเจอบ่อย

1.ในความหมายว่า"แทบจะไม่"(เป็นไปได้ แต่ด้วยความยากลำบาก)

Liza could barely remember the ride to the hospital.
ลิซ่าจำเรื่องที่นั่งรถไปโรงพยาบาลแทบจะไม่ได้

There was barely enough pie for all the guests.
มีพายเกือบจะไม่พอสำหรับแขกทั้งหมด(มีพอแบบฉิวเฉียด)

She could barely see the road in the fog.
เธอแทบจะมองไม่เห็นทางเพราะมีหมอกลงหนา

2. มีน้อย, เกือบจะไม่มี, ขาดแคลน เช่น

a barely furnished room.
ห้องที่ไม่ค่อยได้ตบแต่ง, ห้องที่เกือบจะเป็นห้องว่างๆ

There was barely any smell.
แทบจะไม่มีกลิ่นเลย

3. ในความหมายว่า "เพียงแค่" (ไม่เกินแน่ๆ), เพิ่งจะ

Barely 50% of the population voted.
เพียงแค่ 50% ของประชากรได้ลงคะแนนโหวต

She was barely 20 years old and already running her own company.
เธอนั้นอายุเพียงแค่ 20 ปี ก็มีบริษัทเป็นของตัวเองแล้ว

Away he goes; he barely gets started when BING! the bell rings.
เขาเพิ่งจะเดินไปได้ไม่ไกล"กริ๊ง!!!"เสียงกริ่งก็ดังกังวานขึ้น

จะมีความหมายเหมือนกับ hardly, merely, scarcely ครับ

-----------

that's it. (แด็ทซฺ ซิ่สทฺ) มีความหมายประมาณว่า"พอกันที, จบกันที, ไม่ไหวแล้ว, แค่นี้แหละ" ในเรื่องนี้ จะบอกเป็นทำนองว่า"จะไม่ทนหรือยอมให้เกิดเหตุการณ์นั้นๆอีกต่อไป"(จะแอบซุ่มดู ให้รู้ว่าเป็นใคร เพื่อล็อคคอตีเข่า เพื่อให้เรื่องมันจบ)
เป็นคำพูดที่ออกอาการเซ็งเป็ด, รำคาญหรือเริ่มจะมีอารมณ์

Suddenly, BING! the bell rings again. St. Peter goes back; again, no one's there. "Okay, that's it," St. Peter says. "I'm going to hide and watch to see what's going on."

แต่แล้วทันใดนั้น เสียงกริ่ง ก็ดังวานขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เซนต์ ปีเตอร์รีบกลับไปที่ประตู แล้วก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ไม่มีผู้ใดอยู่ที่นั่น

เซนต์ ปีเตอร์ : "โอ.เค. เอาสิวะ""เราจะแอบซุ่มดูซิว่า ใคร? บังอาจมาเล่นตลกกับเราแบบนี้"

และยังมี กรณีที่เราใช้"that's it. (แด็ทซฺ ซิ่สทฺ)"นี้ เป็นคำถาม โดยยกเสียงพยางค์หน้าและพยางค์ท้ายให้สูง เป็น "that's it? (แด๋ทซฺ ซิ้สทฺ?)" ดังนี้ ก็จะมีความหมายประมาณว่า"แค่นั้นเหรอ?, แค่นั้นเองเหรอ?" ซึ่งคนตอบ ก็อาจจะตอบว่า "Yeap, that's it." (เยพ, แด็ทซฺ ซิ่สทฺ)"เป็นการตอบรับว่า"ใช่ แค่นั้นแหละ"(ลดเสียงลงมาเป็นปกติ)

ประโยคทำนองนี้ ถ้าคุณดูหนัง ก็จะพบบ่อยมาก ฟังบ่อยๆ คุณก็จะเข้าใจ เรื่องกล้วยๆครับ.(It's banana, banana แหะๆๆ.)



*ข้อคิด-คำคมวันนี้

: All leaders are readers.
: คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จนั้น ล้วนเป็นนักอ่าน

 



 

 

.
Fudfidforfun
Learn & Laugh Simultaneously
 เสริมสร้างปัญญา ฮากระจาย
 <Previous>< Home ><Next>
 


Copyright (C)
2003 By www.fudfidforfun.com All rights reserved.