รับสอนอเมริกัน อิงลิช  -  รับสอนภาษาไทยให้กับชาวต่างชาติและลูกครึ่ง   -  เชี่ยวชาญการว่าความให้ชาวต่างชาติ  -  รับสอนเทนนิส
      
สุดยอดเส้นทางลัด ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
           "Englishแบบเข้มข้น แต่ก็ปน เรื่องฮา.....B4 2 long Uจะคล่อง เรื่องภาษา
             ครูอาจารย์ นักเรียน.....ควรแวะเวียน กันเข้ามา
             มา
laugh มาlearn........มาเพลิดเพลิน กับการศึกษา"(โย่ว)(คลิกที่นี่)
<The Funtastic Way to Learn English>  
 อัพเดทสม่ำเสมอ พิเศษสำหรับสมาชิก
    เว็บสอนภาษา ที่ให้มากกว่าการสอนภาษา  .............    
 

   A class discussion :: ปรัชญาวิทยา 

       A college student was in a philosophy class, where there was a class discussion about whether or not God exists, The professor had the following logic:

"Has anyone in this class heard God?" Nobody spoke.

"Has anyone in this class touched God?" Again, nobody spoke.

"Has anyone in this class seen God?" When nobody spoke for the third time, he simply stated, "Then there is no God."

The student did not like the sound of this at all, and asked for permission to speak. The professor granted it, and the student stood up and asked the following questions of his classmates:

"Has anyone in this class heard our professor's brain?" Silence.

"Has anyone in this class touched our professor's brain?" Absolute silence.

"Has anyone in this class seen our professor's brain?" When nobody in the class dared to speak, the student concluded, "Then, according to our professor's logic, it must be true that our professor has no brain!"

The student received an "A" in the class.

       

 

--------------



   นักศึกษาคนหนึ่ง ขณะอยู่ในชั้นเรียนวิชาปรัชญาวิทยา ซึ่งกำลังมีการบรรยายในเรื่องที่ว่า พระเจ้ามีจริงรึไม่ ซึ่งท่านอาจารย์ผู้บรรยาย ได้ใช้หลักตรรกะหรือแนวการคิดด้วยเหตุผล ด้วยการตั้งคำถามบรรดานักศึกษาว่า

"มีใครบ้างมัยครับในห้องนี้ ที่เคยได้ยินพระองค์ทรงตรัส?" ปรากฏว่า นักศึกษาทุกคนเงียบกริบ

"มีใครบ้างมั้ยครับในห้องนี้ ที่เคยได้แตะต้องสัมผัสพระเจ้า?" ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ปรากฏว่า นักศึกษาทุกคนเงียบกริบ

"มีใครบ้างมั้ยครับในห้องนี้ ที่เคยเห็นพระเจ้า?" เมื่อนักศึกษาทุกคนยังคงเงียบฉี่ ท่านอาจารย์ก็สรุปว่า : "นั่นก็แสดงว่า พระเจ้าไม่มีจริง"

นักศึกษาคนนั้นได้ฟังแล้ว รู้สึกแหม่งๆ จึงขออนุญาตแสดงความเห็น เมื่ออาจารย์อนุญาต เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันไปถามเพื่อนๆว่า

"มีใครบ้างมั้ยครับในห้องนี้ ที่เคยได้ยินสมองของอาจารย์พูด?" ปรากฏว่า นักศึกษาทุกคนเงียบกริบ

"มีใครบ้างมั้ยครับในห้องนี้ ที่เคยได้แตะต้องสัมผัสสมองของอาจารย์?" ปรากฏว่า นักศึกษาทุกคนเงียบกริบ

"มีใครบ้างมั้ยครับในห้องนี้ ที่เคยเห็นสมองของอาจารย์?" เมื่อนักศึกษาทุกคนยังคงเงียบฉี่ นักศึกษาคนนั้นก็สรุปว่า : "อาศัยหลักการคิดของอาจารย์ นั่นก็แสดงว่า อาจารย์ไม่มีสมองนะสิครับ ! "

ผลก็คือว่า ในวิชานี้ นักศึกษาคนนั้น ได้เกรด A

(ง่ะๆๆๆ)


-------------

             เพิ่มพูนปัญญา  หลังฮาเฮ


 ฝึกออกเสียง    


philosophy : ฝิล้อสฺ-สฟฝี่ (ปรัชญา, การพิจารณาสิ่งต่างๆบนหลักแห่งความเป็นจริงหรือใช้เหตุผล) n.

professor : โประเฟ้สฺ-เส่อ (อาจารย์) n.

logic : ล้อ-จิคฺ (หลักตรรกะ, วิธีการคิดโดยใช้หลักเหตุผลอย่างเป็นระบบ) n.

discussion : ดิสคั้สฺ-ฉั่น (พูดคุย, ถกเถึยง, อภิปราย) n.

exist : เอ็กซิ่สทฺ- (มีอยู่จริง)v.

conclude :ข่อนคลู่ดฺ- (สรุป, ลงความเห็น) v.

classmate : คล้าสฺ-เหมทฺ (เพื่อนร่วมชั้นเรียน) n.

permission : เผ่อมิ้สฺ-ฉั่น (การอนุญาต) n.

receive : หริซี่ฟวฺ- (ได้รับ) v.

- - - - - - - -- - - - - - - - - - --

      การแนะนำการออกเสียง โดยการเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือนั้น ไม่อาจทำได้สมบูรณ์ 100% ขอให้ท่านฟังจากดิคชันนารีออนไลน์(ฟรี) ซึ่งมีอยู่มากมายประกอบไปด้วย. ใช้ google หาดูนะครับ ควรฟังทั้งที่เป็นคำเดี่ยวๆและที่อยู่ในรูปประโยค
            และที่สำคัญครับ การเรียนภาษาในยุคนี้ ผู้สอนไม่ควรมานั่งถามศัพท์นักเรียนทีละคำ-สองคำอีกแล้ว แบบว่า"ไหนบอกซิ..คำนี้แปลว่าอะไร?-คำนั้นแปลว่าอะไร?" การมานั่งท่องศัพท์ทีละคำ-สองคำเหมือนที่เคยเรียนกันมาในอดีต อีกสิบชาติ ก็ไม่พอใช้หรอกครับ(with all due respect(ด้วยความเคารพ)) เปรียบดังฝนที่ตกลงมาทีละเม็ด-สองเม็ด เอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้ แต่ควรให้คำศัพท์รวมทั้งเรื่องอื่นๆ สาดเทลงมากระทบร่างเราเหมือนดังห่าฝน..นั่นแหละครับ คือวิธีเรียนภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง(ซึ่งเราได้แนะนำกลวิธีไว้ให้ท่านแล้วในหนังสือ(และในเว็บนี้)
            นอกจากนี้ เรายังได้เพิ่มหัวข้อหลัก ไว้ในหน้า"คำแนะนำ"ของเว็บเราชื่อ "American English Pronunciation"(การออกเสียงภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน) ซึ่งจะเป็นคลิปบทสนทนาสนุกสนานเฮฮา ได้สาระมาก อย่าพลาดคลิกเข้าไปรับชม รับฟังกันนะครับ)
         ที่สำคัญ อย่าลืมนะครับว่า ประเทศไทย ได้เข้ารวมกลุ่มเป็น AEC แล้ว ถ้าไม่เร่งพัฒนาภาษากันอย่างจริงจังเสียแต่วันนี้ คนไทย จะเจอปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน)


 เกร็ดความรู้      

logic : ล้อ-จิค (หลักตรรกะ, วิธีการคิดโดยใช้หลักเหตุผลอย่างเป็นระบบ) n.

Those protesters fail to see the logic behind this argument.
พวกที่ออกมาประท้วงเย้วๆอยู่นั้น ไม่มีเหตุผล ในเรื่องที่กำลังทะเลาะกันอยู่

There is no logic in spending money on things you don't need.
เรื่องอะไรที่คุณจะต้องไปเสียเงินซื้อของที่คุณไม่จำเป็นต้องซื้อ (ไม่มีเหตุผลอะไร, หรือไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปเสียเงินซื้อของที่คุณไม่ต้องการ)

"His logic is absurd!"
"เหคุผลของเขามันช่างตลกสิ้นดี"(น่าขัน งี่เง่า ป่วย ฯลฯ)

absurd : แอ็บเซิ่ด-(น่าขัน งี่เง่า ตลก ป่วย ฯลฯ) adj.
เราอาจเคยได้ยินคำว่า"ตรรกะป่วยๆ" ซึ่งกรณีดังว่านี้ เราจะพบว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับ อาการป่วยใดๆนะครับ 555

"Then, according to our professor's logic, it must be true that our professor has no brain!"
"อาศัยหลักการคิดของอาจารย์ นั่นก็แสดงว่า อาจารย์ไม่มีสมองนะสิครับ ! "

ถ้าเป็น adj.จะใช้คำว่า "logical (ล้อ-จิเขิ่ล)"มีความหมายว่า"ตามหลักเหตุผลแล้ว. ตามหลักแล้ว, ฯลฯ."

It's logical that people who earn more money should pay higher income taxes.
หลักก็คือว่า คนที่มีรายได้มากกว่า ก็ต้องเสียภาษีมากกว่า

logical ยังอาจแปลว่า ที่เหมาะ ที่ควร ที่ถูกต้อง ที่เหมาะสม ที่สมเหตุสมผล

You need to find a logical solution to this problem
คุณต้องหาทางออกที่ถูกต้องสำหรับปัญหานี้

  

 



 <Previous>|< Home >|<Next>
 


Copyright (C)
2003 By www.fudfidforfun.com All rights reserved.