President Barack Obama
"We are not going to ship back 12 million people, we're not going to do it as a practical matter. We would have to take all our law enforcement that we have available and we would have to use it and put people on buses, and rip families apart, and that's not who we are, that's not what America is about. So what I've proposed... is you say we're going to bring these folks out of the shadows. We're going to make them pay a fine, they are going to have to learn English, they are going to have to go to the back of the line...but they will have a pathway to citizenship over the course of 10 years."
————————————————————————————
ข่าวก่อนหน้านี้-ภาษาไทย

โอบาม่าหนุนปฏิรูป กม.อิมมิเกรชั่น
ประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า กล่าวสุนทรพจน์ในประเด็นปัญหาอิมมิเกรชั่นอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อเช้าวันพฤหัสฯ ที่ 1 กรกฎาคม ที่อเมริกันยูนิเวอร์ซิตี้ ในวอชิงตัน ดีซี โดยประกาศท่าทีที่ชัดเจนว่า เขาสนับสนุนให้มีการปฏิรูปกฎหมายอิมมิเกรชั่น โดยกล่าวย้ำว่าประเทศอเมริกาถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้อพยพ และวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหาผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายที่ประเมินว่ามีมากถึง 11 ล้านคนนั้น คือการปฏิรูปกฎหมาย ให้คนเหล่านี้มีลู่ทางที่จะเปลี่ยนสถานภาพของตัวเอง และว่าการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีดังกล่าว จำเป็นจะต้องได้รับการสนับสนุนโดยพรรครีพับลิกัน ซึ่งมองปัญหานี้แบบต่างกันสุดขั้วกับพรรคเดโมแครต โดยโอบาม่ากล่าวว่า “ปัญหาในขณะนี้คือ เรามีความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นทางการเมืองที่จะผ่านกฎหมายฉบับนี้ในคองเกรส และทำให้มันเสร็จสิ้นหรือไม่”


แหล่งที่มาข่าวโดย : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

**ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โรบินฮู้ดกับกฎหมายอิมมิเกรชั่น
มีสัจธรรมข้อหนึ่งกล่าวไว้ว่า “การเลือกที่อยู่อาศัย เป็นเสรีภาพอย่างหนึ่งของมนุษย์” ดินแดนที่เราเรียกด้วยความภาคภูมิใจว่า “สหรัฐอเมริกา” คือถิ่นรวมคนหลายเชื้อชาติหลายภาษา ที่เดินทางเข้ามาเพื่อแสวงหาโอกาสของชีวิต เฉกเช่นผู้บุกเบิกในยุคก่อนโน้น


สหรัฐอเมริกา ถือเป็นดินแดนแห่งมหาอำนาจที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นดินแดนแห่งโอกาส และดินแดนแห่งเสรีภาพ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่คนจากทั่วสารทิศ ต้องการมามีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศนี้

บางคน ยอมเข้ามาทำงานหนัก เป็นงานที่เจ้าของประเทศไม่ปรารถนาที่จะทำ เพื่อแลกกับค่าแรงงานขั้นต่ำ บางคน อดทนเพื่อให้ลูกหลานได้มีโอกาสทางการศึกษา ฯลฯ

หลากหลายเหตุผล

แรงงานเหล่านั้น มีทั้งที่เข้าเมือง และอยู่อย่างถูกต้องและที่อยู่อย่างไม่ถูกกฎหมาย โดยเฉพาะจากบางประเทศที่มีเขตแดนใกล้เคียงกัน หาทางเดินข้ามมาเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

มีความจริงข้อหนึ่งว่า ปัจจุบัน แรงงานจากต่างแดน มีส่วนทำให้เศรษฐกิจในสหรัฐดีขึ้น

แต่เมื่อมาถึงยุคของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะผลักดันให้ผู้ที่อยู่ในสหรัฐอย่างไม่ถูกต้อง คืนกลับประเทศของตน

จากตัวเลขระบุว่า ผู้ที่อยู่อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มีจำนวนสูงถึง 11 ล้านคน

จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะผลักดันให้คนเหล่านั้นออกนอกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลายฝ่ายนอกจากไม่เห็นด้วยแล้วยังมีความห่วงใยว่า ถ้าดึงดันที่จะทำเช่นนั้น อาจจะทำให้เกิดผลกระทบ อย่างยิ่งใหญ่มหาศาล

อพาร์ทเมนต์จำนวนมากจะว่างไร้คนเช่า โครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งจะประสบปัญหา แรงงานระดับล่างจะขาดแคลน เศรษฐกิจจะหมุนเวียนอย่างสะดุด และมีสิ่งมากมายจะตามมา

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้มีการนัดหมายเดินขบวนทั่วประเทศครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของโรบินฮู้ด ร่วมกับนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนในเมืองสำคัญต่างๆ อาทิเช่นลอสแอนเจลิส ชิคาโก ฮิวส์ตัน ไมอามี่ ฯลฯ บนความร่วมมืออย่างแพร่หลายทั่วประเทศรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.1 ล้านคน

ได้มีการบอยคอต ไม่ทำงาน ไม่ซื้อของ ไม่ไปโรงเรียนในวันดังกล่าว บอกถึงความไม่พอใจกฎหมายรัฐบาลกลางที่ระบุให้โรบินฮู้ดมีความผิดคดีอาญา และสร้างกำแพงกั้นเขตแดน ระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโกเพื่อให้คำนึงถึงอิทธิพลของโรบินฮู้ดที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

เพื่อส่งข่าวไปยังกรุงวอชิงตัน ถึงผู้มีอำนาจ ที่จะผ่านกฎหมายกำจัดโรบินฮู้ดให้หมดไปจากแผ่นดิน

ผลจากการบอยคอตเมื่อวันจันทร์ มีผลให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งต้องปิดตัวเองในวันนั้น ไร่ที่ต้องเก็บเกี่ยวผลิตผลอย่างรีบด่วนประสบปัญหา เก็บผลผลิตออกจากไร่ไม่ทันตามใบสั่งซื้อ ฯลฯ

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เรื่องของโรบินฮู้ด จะได้รับการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาใหม่

หรือจะมีผู้ใดเห็นใจ

ประวัติศาสตร์การสร้างประเทศของสหรัฐเมื่อสองร้อยปีก่อน อดีตประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน เดินทางโดยทางเรือมาจากประเทศอังกฤษ สู่ดินแดนอเมริกาเพื่อแสวงหาเสรีภาพ ขณะที่ในช่วงเวลานั้น แผ่นดินแห่งนี้มีชาวชนเผ่าที่ถูกเรียกว่า “อินเดียนแดง” เป็นเจ้าของครอบครองอยู่

ในช่วงที่ท่านประธานาธิบดี ยอร์จ วอชิงตัน มาถึง ท่านก็ไม่มี “กรีนคาร์ด”

แต่การต่อสู้ ก็เป็นวิธีการหนึ่งในหลายต่อหลายวิธี ที่ทำให้ “คนอเมริกัน” ยุคต้น ได้อยู่อย่างถูกต้อง

เราจึงเชื่อว่า โรบินฮู้ดรุ่นหลัง ควรสืบสานปณิธานจากอดีตประธานาธิบดี คือการลุกขึ้นเรียกร้อง จนกว่าจะได้ชัยชนะในที่สุด เพื่อตนเอง และเพื่อประเทศของทุกคน “สหรัฐอเมริกา”.

(บทบรรณาธิการ : น.ส.พ.เสรีชัย)

- - - -- - - - - - - -

***การปฏิรูปกฎหมายอิมมิเกรชั่น กลายเป็นเรื่องการเมือง ระหว่างสองพรรคการเมืองของอเมริกา ที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด มีผลทำให้กฎหมายที่ว่านี้ กลายเป็นลูกฟุตบอล,และถูกลากถูลู่-ถูกังยืดเยื้อยาวเหยียดจนกลายเป็นมหากาพย์ไปแล้ว น่าสนุกสนานและน่าสนใจมากครับ

(Cyberghost, fudfidforfun.com) (ก..ย.2553)

**ข่าวเพิ่มเติม ในเดือนธันวาคม 2553(น่าสนใจมากครับ)

 

       

Custom Search
     

บ้าน,ที่ดิน,รถมือ 2,ของใช้แล้ว

 *เราช่วยท่านขายได้ง่ายๆ